กาละแมร์ พัชรศรี เปิดใจชีวิตที่พังเพราะคนไว้ใจ ย้อนเล่าจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่จนตัดสินใจออกจากวงการบันเทิง
ในวันที่เธอไม่เหลืออะไรนอกจากตัวเอง พัชรศรี เบญจมาศ หรือที่คนไทยคุ้นชื่อในนาม “กาละแมร์” ได้เปิดใจครั้งสำคัญผ่านรายการพอดแคสต์ “ขมคอ Story” โดยเล่าถึงช่วงเวลาที่ยากที่สุดในชีวิต หนึ่งในบทเรียนราคาแพงที่ไม่ใช่แค่เรื่องชื่อเสียงหรือภาพลักษณ์ที่ต้องแลก แต่เป็นความเจ็บปวดลึกถึงใจจากการถูกหักหลังโดยคนที่ไว้ใจที่สุด


กาละแมร์ย้อนเล่าช่วงเวลาที่ตัดสินใจยุติบทบาททั้งหมดในวงการโทรทัศน์ หลังเจอมรสุมข่าวดราม่ารุมเร้า ซึ่งไม่เพียงกระทบต่อชีวิตส่วนตัว แต่ยังส่งผลต่อคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นทีมงาน แขกรับเชิญ หรือสปอนเซอร์ เธอบอกว่า “เราต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น มันเอฟเฟกต์กับหลายเรื่อง… เกรงใจที่เรื่องของเราจะกระทบกับคนอื่น”
วันหนึ่ง เธอถึงจุดที่ร้องไห้จนไม่มีน้ำตา เหลือเพียงสติที่ทำให้หันกลับมาถามตัวเองหน้ากระจกว่า “ร้องทำไม เสียใจอะไร” จากนั้นเธอก็เริ่มยอมรับว่า ความเจ็บปวดเหล่านั้นเป็นเพียง “โลกธรรม” คือสิ่งธรรมดาของชีวิต มีสุขก็ต้องมีทุกข์ มีคนรักก็ต้องมีคนเกลียด

แม้จะเป็นพิธีกรแถวหน้า เคยมีชื่อเสียงและเงินทองที่หลายคนฝันถึง แต่เมื่อถึงวันที่เลือกจะปล่อยวาง เธอกลับรู้สึก “โล่งที่สุดในชีวิต” โดยเฉพาะเหตุการณ์ในวันเกิดปีนั้น ที่เธอตัดสินใจว่า “ขอชีวิตกลับคืนมา” เลือกออกมาจากสิ่งที่เคยเป็น โดยไม่หันกลับไปคว้าอดีตไว้แม้แต่น้อย
แต่ความขมขื่นยังไม่จบเพียงเท่านั้น กาละแมร์ยอมรับว่ายังเจอเหตุการณ์อีกหลายอย่างที่ซ้ำเติม ทั้งถูกโกง ถูกหลอกลวง ถูกข่มขู่ หรือแม้แต่ถูกหักหลังจากคนที่สนิทที่สุด “บางคนเข้ามาเหมือนจะช่วย อ้าว สุดท้ายปล้นกูแท้ๆ” เธอกล่าวอย่างตรงไปตรงมา พร้อมย้ำว่า บางคนที่ไว้ใจมากที่สุดกลับกลายเป็นคนที่ทำร้ายเธอเจ็บที่สุด

เธอเผยว่า สิ่งเหล่านี้สอนให้เธอรู้จักความไม่แน่นอนของชีวิต และตระหนักว่า “ความประมาท” ไม่ใช่เรื่องผิด หากรู้จักใช้ชีวิตให้มีสติและปัญญา ความเจ็บปวดที่ผ่านมาทั้งหมดกลายเป็นบทเรียนล้ำค่าที่เปลี่ยนเธอจากคนที่เคยไหลไปตามกระแส ให้กลายเป็นคนที่กลับมารู้จักตัวเองอีกครั้ง
แม้จะเคยเป็นขวัญใจมหาชนในฐานะพิธีกรหญิงแถวหน้า มีรายการเรตติ้งดีจำนวนมาก การตัดสินใจถอนตัวจากวงการอย่างเงียบ ๆ คือการเลือกความสงบใจเหนือเสียงปรบมือ กาละแมร์ย้ำว่า “ไม่เสียดาย ไม่เสียใจ ไม่เอาอะไรเลย” และพร้อมใช้ชีวิตใหม่ในแบบที่เลือกเอง

เรื่องราวของกาละแมร์จึงไม่ใช่แค่บันทึกของคนดังที่เจอมรสุมชีวิต แต่ยังเป็นคำเตือนอันแหลมคมในโลกที่เต็มไปด้วยภาพลวงตา เตือนให้เราใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท และมีสติแม้ในวันที่ทุกอย่างดูเหมือนจะพังทลายลงหมด
จากพิธีกรชื่อดัง สู่บทบาทของผู้หญิงที่ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา กาละแมร์ พัชรศรี กลับมายืนได้อีกครั้งด้วยหัวใจที่เข้มแข็งกว่าเดิม และพร้อมก้าวต่อไปด้วยความเข้าใจชีวิตมากขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา
