ดูเหมือนกับว่าชื่อของ Bella Hadid จะติดโผของโลกแฟชั่นไปแล้ว ด้วยความสวยและเสน่ห์ของเธอ ซึ่งเราก็ไม่แน่ใจว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่ชื่อของเธอก็ได้ติดโผในรันเวย์ชั้นน้ำ และโซเชียลต่างๆ ในชื่อของดาวดวงใหม่ไปแล้ว ด้วยความฉลาด ความสวย และการเป็นนางแบบน้องใหม่ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เรารู้จักเธอมากน้อยแค่ไหนกัน และนี่ก็เป็น 8 เรื่องจริงของ Bella Hadid
เธอเป็นสาวผมบลอนด์
โดยปกติแล้ว สาวผมบลอนด์มักจะโชว์ผมสีบลอนด์สวยของพวกเธอให้ได้มากที่สุด แต่ใช้ไม่ได้กับสาว Bella Hadid คนนี้ ซึ่งน้องสาวของเธอ Gigi Hadid ก็มีสีผมบลอนด์ทองเหมือนกัน สาวเบลล่าเลยเลือกที่จะทำสีผมของตัวเองในเฉดที่เข้มขึ้น เพื่อให้ดูโดดเด่น ซึ่งมันจะเวิร์กสำหรับเธอมาก เพราะมันยิ่งส่งให้ความสวยของเธอพุ่งแรงขึ้นไปอีก

เธอเป็นนักขี่ม้า
คุณเชื่อไหมว่าสาวเบลล่า เกือบจะไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเพื่อแข่งม้า ซึ่งครอบครัวของเธออาศัยอยู่ในฟาร์มเลี้ยงสัตว์มานานกว่า 10 ปี ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้เธอมีโอกาสได้เรียนขึ่ม้าตั้งแต่เด็กๆ แต่แล้วโรค Lyme disease ก็ทำให้เธอต้องหยุดขี่ม้าไป แต่เธอก็ยังมีทักษะในการขี่ม้าได้ดีทีเดียว

ชื่อกลางของเธอ
สาวเบลล่าสืบเชื้อสายมาจากดัตช์ – ปาเลสไตน์และชื่อกลางของเธอคือ Khair ซึ่งสามารถแปลตรงๆจากภาษาอารบิกได้ว่า “ความเห็นอกเห็นใจ” ซึ่งสาวจีจี้ น้องสาวของเธอนั้น ชอบชื่อกลางของสาวเบลล่ามาก ถึงขนาดว่าเธอเอาชื่อนั้นไปตั้งเป็นชื่อของเฉดสีลิปสติกของ Maybelline ที่เธอเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ และสีแดงก็เป็นสีที่สาวเบลล่าชื่นชอบด้วย

เธอเป็นช่างภาพฝีมือดี
การเป็นนางแบบ ไม่ใช่ความตั้งใจของสาวเบลล่าตั้งแต่ต้น หรือเป็นสิ่งที่ไม่เคยอยู่ในความฝันของเธอเลย ซึ่งต่างจากน้องสาวของเธอ สาวเบลล่ามานิวยอร์ก เพื่อเรียนการถ่ายภาพ แต่หลังจากนั้น เส้นทางการเป็นนางแบบของเธอก็เรื่มต้นขึ้น ซึ่งใครจะกล้าปฏิเสธนิตยสารหัวใหญ่อย่าง Vogue และรันเวย์จากแบรนด์ชั้นนำได้ล่ะ ซึ่งแม้ว่าสาวเบลล่าจะสนุกกับการเป็นซุปเปอร์โมเดล แต่เธอก็ยังมีความหวังว่าเธอจะเป็นช่างภาพมืออาชีพได้สักวัน

เธอเดินแบบบนรันเวย์ในปี 2014
สาวเบลล่าเดินแบบครั้งแรกในนิวยอร์ก แฟชั่นวีค ในปี 2014 ซึ่งเธอเดินแบบให้กับแบรนด์ดีไซเนอร์หนึ่ง และเธอก็ทำให้ทุกคนประทับใจ แม้เป็นช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้น และหลังจากงานแฟชั่นวีคจบ เธอก็เริ่มได้รับงานต่างๆมากขี้น ซึ่งรวมไปถึงการขึ้นปกนิตยสาร Jalouse

เธอเป็นนางแบบที่ได้ค่าตัวสูงสุด ในขณะที่เธอมีอายุน้อยที่สุด
ในปี 2017 ทั้ง Bella Hadid และน้องสาวของเธอ ได้รับการจัดอันดับ Forbes ของนางแบบที่ได้ค่าตัวสูงสุด โดยเบลล่าได้อันดับที่ 9 และสาวจีจี้ ได้อันดับที่ 5 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองพี่น้องได้ขึ้นอยู่ในลิสต์ และสาวเบลล่าเป็นนางแบบที่อายุน้อยที่สุด ที่นิตยสาร Forbes เคยกล่าวถึง ซึ่งในขณะนั้น เธอมีอายุเพียงแค่ 21 ปี และทำงานอยู่ในวงการแฟชั่นกับแบรนด์ต่างๆมากมาย

เธอมักมีความวิตกกัลวล
มันยากที่จะจินตนาการถึงสาวเบลล่า กับการที่เธอจะต้องเผชิญกับอาการวิตกกังวล ในขณะที่เธอดูเป็นปกติสุดๆ ในขณะที่เธอให้สัมภาษณ์บนพรมแดง ซึ่งมันดูเหมือนจะเป็นเรื่องง่ายสำหรับเรา แต่มันจะง่ายจริงๆหรือ? การที่เธอเริ่มจากสาวน้อยแสนธรรมดา และก็กลายเป็นคนที่เป็นที่รู้จักของคนนับล้านในพริบตา ย่อมเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก และเครียด และนั่นเป็นสิ่งที่เกิดกับสาวเบลล่า มีครั้งหนึ่งที่เธอต้องประสบกับอาการประหม่าเป็นอย่างมาก ก่อนการเดินพรมแดง และการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน เธอถึงขั้นเกือบร้องไห้เลยทีเดียว แต่อาการวิตกกังวลของเธอก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งการที่เธอพบปะผู้คนอยู่เสมอ มันจะช่วยเธอได้มากเช่นกัน

เธอเชื่อในพลังของคริสตัล
มันยากที่จะบอกว่า ซุปเปอร์โมเดลสาวรุ่นใหม่ จะยังเชื่อในพลังของคริสตัล และเธอยังฝึกสมาธิอยู่เป็นประจำ ซึ่งแม่ของเธอได้ทำให้เธอได้รู้จักการรักษาจากภายใน เมื่อตอนที่เธอเป็นโรค Lyme disease สาวเบลล่าเคยบอกไว้ว่า แม่ของเธอมักจะถือคริสตัลอยู่ในมือ เพราะมันเป็นแหล่งพลังงานที่สงบนิ่ง และเธอยังพกน้ำมันหอมระเหย และใช้มันอยู่บ่อยๆเมื่อเธอต้องเดินทาง เพราะมันช่วยผ่อนคลายความเครียดขณะบนเครื่องบิน และเธอยังเคยฝึกสมาธิทุกวัน แต่ในปัจจุบัน เธอก็ยังทำมันอยู่บ่อยๆ ขณะที่เธอฟังเพลงที่ผ่อนคลาย