คุณเคยคิดจะไปทำศัลยกรรมบ้างไหม? คำถามนี้คงเป็นคำถามพื้น ๆ ไปแล้วในตอนนี้ เพราะเทรนต์การทำศัลยกรรมดูจะเป็นที่แพร่หลายกันมากขึ้นในช่วงหลาย 10 ปีที่ผ่านมา ไม่เพียงแค่คนบ้าน ๆ ที่อยากไปทำศัลยกรรมให้ตัวเองหน้าตาดูเหมือนดาราที่ชื่นชอบ แม้แต่ตัวดาราดัง ๆ ก็ผ่านมีดหมอกันมาตั้งหลายคน บางคนทำแล้วชีวิตก็ปัง ดูดีขึ้น ราศีจับ แต่น่าเสียดายที่การทำศัลยกรรมกลับทำพิษให้ชีวิตของดาราบางคนกลับเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ วันนี้เราจะขอเสนอรายชื่อดารา 5 คนที่ไปเสพติดการทำศัลกรรม หรือโชคร้ายที่ไปเจอหมอที่ไร้จรรยาบรรณ ทำเอาหน้าเสียโฉมสุด ๆ จนชีวิตพัง
1. ดาว–มยุรีพันธนาม
ในแวดวงนักร้องสายลูกทุ่งคงไม่มีใครไม่รู้จักชื่อนี้ ดาว-มยุรี พันธนาม อดีตนักร้องลูกทุ่งที่หน้าเคยหวานปานน้ำอ้อย และเธอมีชื่อเสียงมากที่สุดในเพลง “มีเมียแล้วไม่เอา” แต่ในปัจจุบันนี้ตัวเธอโดนกระแสโจมตีอย่างหนักเนื่องจากการเสพติดการทำศัลยกรรมจนถึงขั้นเจ้าตัวต้องขอลาออกจากวงการบันเทิงเอง และสื่อโซเชียลก็ให้ฉายาเธอว่า หน้าเอเลี่ยน
โดยเธอผ่านการผ่าจมูกมา 4 ครั้ง เสริมคาง 6 ครั้ง เสริมเท้าเพื่อให้ดูมีน้ำมีนวล 1 ครั้ง และดึงหน้าให้แต่งตึง รวมถึงการแก้ไขอีกกว่าหลาย 10 ครั้ง ชีวิตเธอตกต่ำลงไปเรื่อย ๆ มีการทะเลาะกับคนในวงการด้วยกันเอง และหย่าร้างกับสามีด้วย ความผิดพลาดนี้เกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการของตัวเธอเอง และ ควบคู่กับการไปเจอหมอเถื่อน
2. ฟางฟางมกจ๊ก
อดีตดาราตลกที่เป็นสาวข้ามเพศในคณะตลกชื่อดัง ชีวิตพังเพราะมีดหมอเกาหลี ตัวเธอเคยออกมาเผยประสบการณ์นรกบนดินหลังจากบินข้ามประเทศไปทำศัลยกรรมถึงที่เกาหลี ตอนที่ไปเธอก็เห็นว่ามีคนประท้วงอยู่หน้าคลินิก แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร พอทำเสร็จเจ้าตัวก็ถึงกับตะลึงกับใบหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลต่อหน้าที่การงานที่ไม่สามารถกลับไปทำได้อีก ทั้งนี้เธอขอเตือนสติคนที่อยากทำศัลยกรรมว่า หากจะไปทำศัลยกรรมที่ต่างประเทศ ต้องหาล่ามที่เก่ง เอกสารที่จะเซ็นกับทางคลินิกซึ่งควรจะต้องมีทั้งไทยและอังกฤษ เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องของตัวเอง และไม่ถูกเอาเปรียบจากทางคลินิก รวมทั้งที่สำคัญคิดจะทำอะไรต้องมีสติ ถ้าจะให้ดีอย่าใจร้อน ให้ค่อย ๆ ทำทีละอย่าง แล้วดูผลว่าผลที่ออกมาน่าพอใจไหม ถ้าพอใจก็ค่อยกลับไปทำใหม่
3. อูม-วิยะดาอุมารินทร์
ดารารุ่นใหญ่ที่ฉีดฟิลเลอร์กับหมอกระเป๋าที่อ้างว่าเป็นพยาบาล รับฉีดฟิลเลอร์ตามคอนโด โดยคิดค่าบริการในราคาหลัก 1,000
เจ้าตัวได้ออกมาเผยว่าที่ต้องฉีดเพราะว่าที่หน้าผากมีรอยแผลเป็น คิดว่าฟิลเลอร์น่าจะช่วยเติมเต็มรอลแผลที่เป็นอยู่ได้ แต่ด้วยความที่ไม่รู้ว่าต้องปฏิบัติตัวอย่างไรหลังฉีด กลับบ้านมาก็มาทำงาน ออกแรง เล่นกับหลาน และโดนกระแทกจนบริเวณที่ฉีดบวมปูด แถมฟิลเลอร์ยังไหลลงมาบริเวณจมูก ทำให้ต้องไปหาแพทย์ที่โรงพยาบาลเพื่อเจาะเอาฟีลเลอร์ออก และทำให้ทิ้งรอยแผลเป็นที่หนักยิ่งกว่าเดิมไว้ให้ดูต่างหน้า ทั้งนี้ทางแพทย์ได้ออกมาเผยว่า สาเหตุที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ส่วนหนึ่งมาจากตัวฟิลเลอร์ที่หมดอายุ
4. แตงโม–นิดาพัชรวีระพงษ์
อดีตดารานักแสดงชื่อดังที่ตอนนี้ล่วงลับไปแล้ว แตงโมถือเป็นสาวหน้าหวานที่เชื่อว่าน่าจะเป็นสเปคของหนุ่ม ๆ หลายคน แต่เดิมแตงโมเป็นคนที่มีหน้าตาสละสลวยอยู่แล้ว แต่เนื่องจากอุบัติเหตุทางรถบนทางด่วนเมื่อประมาณ 10 กว่าปีก่อน ทำให้หน้าเธอต้องเสียโฉมจากการต้องเย็บถึง 140 เข็ม ผิวบริเวณคางที่ผิดรูปทำให้เธอต้องเข้า ๆ ออก ๆ คลินิกอยู่บ่อยครั้ง
โดยเจ้าตัวเคยบอกสาเหตุที่ต้องทำแบบนี้เพราะว่า ตลอดทั้งชีวิตทำแต่งาน ต้องอยู่ให้ได้ ต้องซ่อมจริง ๆ ถ้าไม่ซ่อมไม่รักษาก็คงอยู่ในวงการบันเทิงไม่ได้อีก จนเมื่อเจ้าตัวทำไปทำมาปรากฏว่าศัลยกรรมทำพิษซะงั้น ทำให้เธอปากเบี้ยว ตาแข็ง หน้าซีกหนึ่งไร้ความรู้สึก ขยับไม่ได้เหมือนปกติ
5. ซันนี่ยูโฟร์
อดีตบอยแบนด์ชื่อดังในช่วงยุค 90 รู้จักกันในชื่อ ซันนี่ ยูโฟร์ หรือ ญาณวรุตม์ สุทธิวาส ที่เสียชีวิตไปเมื่อปี 2565 เนื่องจากมรสุมชีวิตรุมเร้า และอาจเป็นเพราะอาการป่วยจากไทรอยด์ อย่างไรก็ตามยังไม่มีการเผยสาเหตุการเสียชีวิตที่ชัดเจน
ซันนี่ถือเป็นนักร้องจากวงบอยแบนด์ในยุคแรก ๆ ที่ออกมาเผยต่อสื่อว่าตัวเองเป็นพวกชายรักชาย หรือกะเทย เจ้าตัวหายหน้าจากวงการไปหลายปีเนื่องจากไปทำศัลยกรรมแบบประหยัดมาเกือบทั้งร่างกาย ในตอนแรกก็ดูเหมือนทุกอย่างจะไปได้สวย เพราะหน้าออกมาหวานจนน้ำตาลยังเรียกพี่และหุ่นเช้งกระเด๊ะ ทำให้เจ้าตัวกลับไปหาหมอคนเดิมเพื่อเสริมโน่นเติมนี่อีกอยู่หลายครั้ง
แต่พอนานไปปรากฏว่าหน้าเริ่มเบี้ยว มีอาการปวดอักเสบอย่างหนัก สุดท้ายต้องไปปรึกษาหมอผู้เชี่ยวชาญคนอื่น จนพบว่าคลินิกที่เคยไปทำเป็นคลินิกเถื่อน หมอเถื่อน ยาและซิลิโคนที่ใช้ก็เป็นของปลอมทำมาจากน้ำมันหมู น้ำมันมะกอก