“แอนโทเนีย โพซิ้ว” สาวสวยลูกครึ่งที่สร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการนางงามของไทย และเรียกได้ว่าเป็นนิยามของคำว่าสวยอย่างมีสมอง เธอเป็นสาวงามเบอร์อันดับต้น ๆ ของประเทศ เพราะด้วยรูปร่างที่สูงโปร่งและใบหน้าที่คมคาย ไม่ว่าจะไปประกวดเวทีใด มงก็แทบจะลงเธอทุกครั้ง เชื่อว่าเพื่อน ๆ ที่ยังไม่รู้จักสาวงามคนนี้ ตอนนี้คงอยากจะรู้แล้วใช่ไหมว่าเธอมีประวัติเป็นมาและเข้ามาเฉิดฉายในวงการนางงามได้อย่างไร? ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย
1. เติบโตมาในหลายวัฒนธรรม
แอนโทเนีย โพซิ้ว เกิดในวันที่ 2 พฤศจิกายน 1996 โดยมีคุณพ่อเป็นชาวเดนมาร์ก และคุณแม่เป็นชาวไทยจังหวัดนครราชสีมา แต่แท้ที่จริงแล้วเธอเกิดและเติบโตที่ประเทศอินเดีย ซึ่งโดยหน้าที่การงานของคุณพ่อทำให้เธอต้องย้ายตามไปด้วย ณ ประเทศต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเดนมาร์ก สเปน ไทยและเวียดนาม และนี่เองที่ทำให้สาวสวยคนนี้ได้รับวัฒนธรรมจากประเทศต่าง ๆ และมีความคล่องแคล่วทั้งภาษาอังกฤษและไทย



2. ไม่ทิ้งการศึกษา
หลังจากจบการศึกษาในสาขาประชาสัมพันธ์และการสื่อสารที่ EU Business School ในบาร์เซโลนา เธอได้ศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี หลักสูตรนานาชาติในสาขาวิชาการตลาดและประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด และเธอยังมุ่งมั่นที่จะศึกษาต่อในระดับ MBA โดยได้รับทุนเรียนเต็มจำนวนอีกด้วย

3. การปรากฏตัวครั้งแรกในจอทีวี
หลายคนที่เคยดูรายการ The Face Thailand ก็คงจะคุ้นหน้าเธอเป็นอย่างดี เพราะเธอได้เข้าร่วมรายการตั้งแต่ซีซัน 1 เธอได้ผ่านเข้ารอบเป็น 15 คนสุดท้ายและได้อยู่ในทีมของพลอย-เฌอมาลย์ ซึ่งถึงแม้จะถูกคัดออกในสัปดาห์ที่ 7 แต่เวทีนี้ก็ทำให้เธอได้เริ่มเฉิดฉายออร่าขึ้นมาอย่างไม่ต้องสงสัย

4. Miss Supranational คนแรกของไทย
ในปี 2019 เธอได้รับรางวัลชนะเลิศในรายการประกวด Miss Supranational Thailand 2019 ทำให้เธอได้เป็นตัวแทนประเทศไปแข่งขันใน Miss Supranational 2019 ที่จัดขึ้นที่โปแลนด์ เป็นรายการแข่งขันเพื่อหาสาวงามระดับโลกจาก 76 ประเทศ และเธอก็ได้สร้างตำนานใหม่ให้กับประเทศไทยที่เป็นคนไทยคนแรกที่ได้รับตำแหน่งผู้ชนะจากเวทีนี้
5. PorDee คู่หูต่างวัฒนธรรม
หากใครได้ชมรายการประกวด Miss Universe 2023 จะพบว่าสาวสวยจากไทยของเราคนนี้ได้ไปสร้างความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับเพื่อนร่วมประกวดชาวฟิลิปปินส์ “Michelle Dee” ด้วยทัศนคติและเคมีที่เข้ากันทำให้มีแฟน ๆ ต่างส่งให้กำลังทั้งสองสาว จนเกิดเป็น #PorDee ไปทั่วอินเทอร์เน็ต

6. พลังเล็ก ๆ ช่วยโลกให้ดีขึ้น
นอกจากหน้าตาจะสวยแล้ว จิตใจยังงามอีกด้วย เธอเผยว่าได้เข้าร่วมในโครงการ The Little Step Project เพื่อช่วยผู้ที่ยากไร้กว่าทั้งเด็ก ผู้สูงอายุ และคนพิการร่วมกับคุณแม่มาตั้งแต่มัธยม 5 รวมทั้งเธอยังได้สร้างคอมมิวนิตีเล็ก ๆ ที่คอยช่วยกันนำเงินบริจาค และรายได้บางส่วนจากการขายผลิตภัณฑ์ไปทำการกุศลด้วย
7. มูฟออน มองบวก
เธอเคยให้สัมภาษณ์ว่าในวัยเด็กเธอเป็นคนชอบเล่นกีฬา ชอบการแข่งขัน ทำให้ตัวเธอเข้าใจได้ว่าทุกการแข่งขันย่อมมีคนที่ชนะ และคนที่แพ้ สิ่งนี้หล่อหลอมให้ตัวเธอกลายเป็นคนที่มูฟออนได้ง่ายเวลาที่เจอกับสิ่งที่ผิดหวัง อย่างเช่นการประกวด Miss Universe 2023 มงอยู่แค่ตรงหน้าเธอแล้ว แต่เธอกลับคว้ามันมาไม่ได้ และเป็นได้แค่รองอันดับที่ 1 แน่นอนว่าเธอยอมรับและเสียใจมาก แต่เธอก็ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ในเมื่อเธอได้พยายามอย่างดีที่สุดแล้ว สิ่งเดียวที่เธอจะทำได้ก็คือ การเดินหน้าและไม่หยุดพัฒนาตัวเองต่อไป

8. ซอฟต์เพาว์เออร์ของไทย
หลังจากจบเวทีประกวด Miss Universe 2023 และแม้คนไทยทุกคนต่างต้องเสียใจที่ลูกหลานย่าโมคนนี้เกือบจะได้มงกุฎนางงามจักรวาลมาครองอยู่แล้วเชียว แต่คนทั่วโลกก็ได้ประจักษ์ถึงความสวยและความมีไหวพริบในการตอบคำถามของเธอ ทำให้เรียกได้เลยว่าเธอกลายเป็นซอฟต์เพาว์เออร์ของไทย และเป็นขวัญใจของคนทั่วโลกไปแล้ว


