เคล็ดลับความสวยงามที่ส่งต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่นนั้น ส่วนใหญ่แล้วในปัจจุบันเราก็ยังปฏิบัติตามกันมา แต่ใช่ว่าทุก ๆ เคล็ดลับของความสวยงามที่จะถูกต้องเสมอไป เพราะก็มีความเชื่อเรื่องความงามบางอย่างในอดีตที่กลายเป็นทำให้เกิดโทษ แทนที่จะทำให้คุณสวย ดังนั้นในบทความวันนี้จึงขอเสนอ 10 ความเชื่อเรื่องความสวยงามที่ผิด ๆ ที่คุณควรทราบ
1. ควรสครับผิวทุกๆวัน
การสครับผิว เป็นเหมือนการขัดขี้ไคล และนำเอาเซลล์ผิวที่ตายไปแล้วให้หลุดออกจากใบหน้า และเป็นหนึ่งในเคล็ดลับที่ทำให้ผิวเปล่งปลั่งอีกด้วย ดังนั้นในอดีตสาว ๆ จึงมักที่จะสครับผิวหน้าทุก ๆ วัน ซึ่งทำให้ผิวของใบหน้านั้นบาง และเกิดการระคายเคืองได้โดยง่าย ดังนั้นคุณควรทำการสครับผิวไม่เกินอาทิตย์ละ 3 ครั้ง เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
2. สครับที่ดีควรเป็นผงขัด
เราจะเห็นได้ว่าผลิตภัณฑ์สครับผิวในสมัยก่อน จะเป็นลักษณะของผงที่เอาไว้ขัดผิว แม้ในปัจจุบันเราก็เห็นอยู่มากมาย ซึ่ง สครับเหล่านั้นอาจจะใช้ได้กับผิวกาย แต่ผิวหน้าของเรานั้นต้องการความอ่อนโยนกว่านั้น ดังนั้นการขัดผิวโดยตรงอาจจะไม่ใช่วิธีที่ดีสักเท่าไหร่ ในปัจจุบันเรามีผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการผลัดเซลล์ผิวที่มีส่วนประกอบของ AHA, BHA หรือ PHA ซึ่งเป็นสารสกัดที่มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน ๆ หรือจะเป็นกรด Salicylic acid ที่สามารถช่วยเรื่องการอุดตันของรูขุมขนได้ ซึ่งสารเหล่านี้ไม่เพียงแต่สามารถใช้ผลัดเซลล์ผิวเท่านั้น แต่ยังสามารถทำความสะอาดรูขุมขนได้เป็นอย่างดี
3. ไม่ควรแต่งหน้าทุกวันเพราะจะเป็นการทำร้ายผิว
จริง ๆ แล้วมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเครื่องสำอางจะเป็นตัวทำร้ายผิวหน้า แต่การล้างหน้าที่ไม่สะอาดต่างหากที่ทำให้เกิดการอุดตัน ดังนั้นคุณไม่ต้องกังวลว่าหากแต่งหน้าทุกวันแล้วจะทำให้ผิวเสีย ถ้าคุณมีขั้นตอนการทำความสะอาดผิวหน้าที่ดี และสะอาดหมดจด
4. ไม่จำเป็นต้องทากันแดดหากไม่ได้ออกไปไหน
นี่เป็นความเชื่อที่ผิดมหันต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบ้านเราเป็นเมืองร้อน และปริมาณแสงแดดที่มากแบบไม่ต้องพูดถึง แม้ว่าเราจะอยู่บ้านและไม่ได้ออกไปไหน แต่ตราบใดที่มีแสงแดดสาดส่อง หรือไฟจากหลอดฟลูออเรสเซนต์ สิ่งเหล่านี้ก็ยังเป็นตัวแปรที่ทำร้ายผิวได้เช่นกัน ดังนั้นคุณควรทาครีมกันแดดที่ใบหน้าทุกวัน แม้ว่าจะไม่ได้ออกแดดโดยตรง
5. เพื่อสุขภาพผมที่ดีควรแปรงผมวันละ 100 ครั้ง
การหวีผมนั้นเป็นหนึ่งวิธีที่ทำให้เป็นการนำสิ่งสกปรกออกจากเส้นผม แต่การแปรงผมที่มากเกินไปนั้นจะสามารถทำให้เส้นผมขาด และทำให้เส้นผมอ่อนแอ แถมยังสามารถทำให้เกิดแผลบนหนังศีรษะได้อีก ดังนั้นควรแปรงหรือหวีผมตามความจำเป็นเท่านั้น
6. น้ำมันมะพร้าวช่วยบำรุงผิวหน้า
น้ำมันมะพร้าวอาจจะใช้ได้ผลดีกับบางคน แต่จริง ๆ แล้วนั้นน้ำมันมะพร้าวมีค่าความอุดตันที่สูง ดังนั้นจึงจะทำให้เกิดการ อุดตัน และทำให้เกิดสิวได้ ดังนั้นหากคุณต้องการใช้น้ำมันในการบำรุงผิวหน้า ควรเลือกน้ำมันที่มีค่าความอุดตันหรือ Comedogenic ต่ำอย่างเช่น น้ำมันผลกุหลาบป่า หรือน้ำมันจากเมล็ดองุ่นแทน
7. แก้มสีชมพูเปล่งปลั่งด้วยการหยิกแก้ม
คุณอาจจะขำกับเคล็ดลับความงามนี้ แต่นี่เป็นเรื่องจริงที่สาว ๆ ในสมัยก่อนทำกันเป็นประจำ ซึ่งวิธีนี้มันแน่นอนอยู่แล้วว่า เป็นการทำร้ายผิวโดยการทำลายเส้นเลือดบริเวณแก้ม ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการฟกช้ำ แทนที่จะเป็นสีชมพูสวย ดังนั้นคุณควรใช้บลัชออนเป็นตัวช่วยในการเติมสีให้กับพวงแก้ม จะเป็นวิธีที่ดีที่สุด
8. ใช้สเปรย์ผมในการเซ็ตเครื่องสำอางหลังการแต่งหน้า
นี่เป็นเรื่องจริงที่หลาย ๆ คนในอดีตอาจจะทำกัน เพราะเชื่อว่าสเปรย์ที่ใช้จัดแต่งทรงผมนั้น สามารถเซ็ตเครื่องสำอางได้ ซึ่ง ในความเป็นจริงแล้ว มีสารเคมีที่ไม่พึงประสงค์อยู่มากที่เป็นส่วนประกอบของสเปรย์จัดแต่งทรงผม แต่ผลร้ายที่เห็นชัดที่สุดคือ การอุดตันของรูขุมขนซึ่งจะทำให้เกิดสิวอุดตันได้
9. ใช้เข็มที่สะอาดเจาะหัวสิว
แม้ว่าเข็มเล่มนั้นจะสะอาดแค่ไหนก็ไม่ควรนำมาใช้เจาะหัวสิว เพราะนั่นจะทำให้เกิดการอักเสบ และยิ่งไปกว่านั้น อาจจะทำให้เกิดสิวเรื้อรังที่แก้ไม่หายเลยทีเดียว
10. ใช้การเผาปลายผมเพื่อกำจัดผมแตกปลาย
ในเคล็ดลับความงามแบบ Velaterapia ของบราซิลนั้น ใช้การเผาปลายผมเพื่อกำจัดผมแตกปลาย ซึ่งนั่นเป็นการทำลายโครงสร้างโปรตีนเคราตินของเส้นผม ทำให้โครงสร้างผมเสียหาย และทำให้เกิดผมเสียที่เกินเยียวยาได้