≡ โรครักหัวปักหัวปำ (Obsessive Love Disorder) แก้ไขอย่างไร 》 Her Beauty

โรครักหัวปักหัวปำ (Obsessive Love Disorder) แก้ไขอย่างไร

Advertisements

ความรักคือสิ่งที่สวยงาม แต่ความรักที่มากเกินไปอาจส่งผลเสียได้อย่างที่คุณอาจคาดไม่ถึง

โรคความรักครอบงำ (Obsessive Love Disorder – OLD)  คือภาวะทางสุขภาพจิตที่เกิดจากความหลงใหลในตัวบุคคลอื่นมากเกินไป และอาจนำไปสู่การหมกมุ่นและความหลงผิด ภาวะนี้สามารถส่งผลกระทบต่อชีวิตของผู้ที่เป็นโรคและคนรอบข้างของพวกเขาด้วย 

ความคิดหมกมุ่นนี้จะไปครอบงำจิตใจของผู้ที่เป็นโรค ทำให้พวกเขาไม่สามารถจดจ่อกับสิ่งอื่นๆ ได้ พวกเขาจะประสบปัญหาในการยอมรับการถูกปฏิเสธ ทำให้พวกเขาพยายามที่จะติดต่อหรือคงความสัมพันธ์กับบุคคลที่พวกเขาหลงใหลอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้พวกเขายังมักจะแสดงความเป็นเจ้าของและต้องการควบคุมการกระทำและการโต้ตอบของบุคคลนั้นอย่างไม่มีเหตุผล การกระทำแบบนี้เกิดมาจากความกลัวว่าจะสูญเสียบุคคลคนนั้นไป 

นอกจากนี้ ผู้ที่เป็นโรคส่วนใหญ่มักจะขาดความเชื่อมั่นหรือไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง และภาวะแบบนี้เองที่กลายเป็นเหมือนเชื้อเพลิงที่ทำให้เกิดพฤติกรรมหมกมุ่นมากขึ้น เพราะพวกเขาจะคิดว่าคุณค่าและความสุขของพวกเขานั้นขึ้นอยู่กับบุคคลอื่น 

ความหมกมุ่นนี้สามารถส่งผลที่รุนแรงจนไปขัดขวางความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวัน ส่งผลกระทบต่อการทำงาน ความสัมพันธ์ทางสังคม และที่ร้ายแรงที่สุดคือคุณภาพชีวิตของพวกเขาเอง เพราะความรักจากบุคคลอื่นเป็นสิ่งเดียวที่เขาต้องการ และการดูแลตัวเองหรือรักตัวเองกลับกลายเป็นสิ่งที่พวกเขามองข้ามไป 

Loading...

แล้วคุณล่ะเคยเห็นเพื่อนๆ หรือคนรู้จักมีอาการแบบนี้บ้างไหม 

เพราะฉะนั้นในวันนี้ เราจึงอยากมาแบ่งปันความรู้ดีๆ เกี่ยวกับการรับมือและแนวทางการบำบัดอาการเหล่านี้ และเรารับรองเลยว่ามันจะช่วยให้ผู้ที่เป็นโรคกลับมามีภาวะจิตใจที่ปกติและรู้จักรักตัวเองมากขึ้น

  1. ให้เวลากับตัวเอง หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้กับบุคคลที่คุณหมกมุ่น ทำสมาธิ ลองใช้เวลาอยู่กับตัวเองคนเดียว และกลับมาคิดทบทวนว่าบุคคลคนนั้นหรือตัวคุณเองกันแน่ที่คือคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตคุณ 
  1. สร้างความมั่นใจในตัวเอง จะช่วยทำให้คุณเห็นค่าของตัวเอง และลดการพึ่งพาอาศัยหรือความหมกมุ่นในบุคคลอื่น
  2. ทำกิจกรรมอื่นๆเช่น ทำกิจกรรมเพื่อสังคม แลกเปลี่ยนความรู้ใหม่ๆ กับบุคคลอื่น หรือแม้แต่การไปคาเฟ่น้องหมาน้องแมว ก็สามารถช่วยเบี่ยงเบนความสนใจจากความหมกมุ่นได้
  3. ขอความช่วยเหลือ หากคุณลองทำสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นแล้วแต่ยังพบว่าไม่มีอะไรดีขึ้นเลย สิ่งสุดท้ายก็คือการขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญทางด้านสุขภาพจิต

Advertisements