เป็นที่แน่นอนอยู่แล้วว่าอาหารที่คุณทำเองที่บ้านนั้น ย่อมมีประโยชน์มากกว่าอาหารที่คุณไปทานที่ร้าน เนื่องจากคุณทราบวัตถุดิบ และคุณสามารถควบคุมและเลือกคุณภาพของวัตถุดิบได้อย่างเต็มที่ และสิ่งหนึ่งที่เป็นตัวแปรหลักในการทำอาหารคือ น้ำมันในการปรุงอาหาร แม้ว่าจะมีวางขายอย่างทั่วไป และมีอยู่มากมายหลายชนิดตามท้องตลาด แต่เราก็ควรที่จะรู้เบื้องต้นว่า น้ำมันชนิดไหนที่จะไม่ทำให้เกิดโทษ หรือสารก่อมะเร็งเมื่อรับประทานเข้าไป และในบทความนี้ ก็จะมานำเสนอน้ำมันปรุงอาหาร 6 ชนิดที่มีประโยชน์มากที่สุดค่ะ
- น้ำมันอโวคาโด
น้ำมันอโวคาโดนั้น ถือว่ามีราคาสูงมากเลยทีเดียว แต่ประโยชน์ของมันนั้นก็มากมายเช่นกัน เพราะด้วยความที่น้ำมันอะโวคาโดนั้น มีจุดเดือดที่สูง อยู่ที่ประมาณ 270 เซลเซียส จึงสามารถนำเอามาปรุงอาหารที่มีความร้อนสูงได้ นอกจากนี้ น้ำมันอโวคาโดนั้นประกอบด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว, กรดโอเลอิก หรือ โอเมก้า-9 น้ำมันชนิดนี้จึงได้ชื่อว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพของหัวใจเป็นอย่างยิ่ง และยังช่วยลดปริมาณ LDL ในร่างกายได้อีกด้วย
- น้ำมันเมล็ดทานตะวัน
น้ำมันเมล็ดทานตะวันนั้นก็ถือว่าเป็นน้ำมันที่มีจุดเดือดสูงเช่นกัน อยู่ที่ประมาณ 230 องศาเซลเซียส แต่จะมีกลิ่นเฉพาะตัวเบาบาง ซึ่งก็ไม่ถือว่าเป็นการรบกวนรสชาติของอาหารของคุณแต่อย่างใด ดังนั้นจึงเหมาะกับการใช้ปรุงอาหารประเภทผัด, ทอด หรือแม้กระทั่งใช้อบขนม น้ำมันเมล็ดทานตะวันนี้ประกอบด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวสูง และกรดโอเลอิกที่มาก รวมถึงวิตามินอี ดังนั้นน้ำมันเมล็ดทานตะวันจึงสามารถช่วยลดปริมาณ LDL ในร่างกายได้เช่นกัน
- น้ำมันเมล็ดองุ่น
เป็นน้ำมันที่มีผลผลิตมาจากการสกัดมาจากเมล็ดองุ่นโดยตรง และมีจุดเดือดสูงถึง 215 องศาเซลเซียส และไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว ดังนั้นจึงเหมาะกับการปรุงอาหารในหลายๆเมนู สำหรับคุณค่าทางโภชนาการของน้ำมันเมล็ดองุ่น ประกอบด้วยกรดไขมันประเภทโอเมก้า 6 ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพของหัวใจมากกว่าน้ำมันประเภทอื่น ซึ่งแม้ว่าจะมีงานวิจัยที่บ่งบอกว่า ปริมาณของโอเมก้า 6 ที่มากนั้น ส่งผลต่อการอักเสบภายในร่างกาย แต่หากคุณรับประทานกรดไขมันประเภทโอเมก้า 3 ในปริมาณ 1:1 แล้ว มันก็จะไม่เกิดผลอะไร ดังนั้นคุณควรรับประทานไขมันจากปลา หรือถั่วต่างๆไปด้วย เมื่อคุณเลือกที่จะบริโภคน้ำมันประเภทนี้
- น้ำมันมะกอก
น้ำมันมะกอกมีช่วงจุดเดือนที่ค่อนข้างกว้าง ตั้งแต่ 160 (น้ำมันมะกอกชนิด Extra Virgin) ถึง 240 องศาเซลเซียส สำหรับน้ำมันมะกอกประเภท extra light ซึ่งการเลือกประเภทของน้ำมันมะกอกก็ต้องคำนึงถึงประเภทของอาหารให้ถูกต้อง เพื่อรสชาติและประโยชน์ที่ดีที่สุด หากกล่าวถึงคุณค่าทางโภชนาการของน้ำมันมะกอกแล้ว น้ำมันมะกอกประกอบด้วยสารโพลีฟีนอลที่สูง ซึ่งสามารถลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง และโรคหัวใจ
- น้ำมันถั่วลิสง
น้ำมันถั่วลิสงมีจุดเดือดประมาณ 232 องศาเซลเซียส จึงสามารถใช้ในการทอด และผัดได้ และด้วยการที่มีกลิ่นเฉพาะตัวเล็กน้อย ทำให้สามารถเพิ่มรสชาติอาหารโดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารทางเอเชียของเราให้มีรสชาติดียิ่งขึ้น ซึ่งน้ำมันถั่วลิสงนี้ประกอบด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดียว และสารที่เรียกว่า ไฟโตสเตอรอล ซึ่งมีฤทธิ์สามารถยับยั้งการดูดซึมของคลอเรสเตอรอลในร่างกายของเราได้
- น้ำมันรำข้าว
น้ำมันรำข้าวนี้สามารถหาได้ง่ายได้ประเทศไทย ซึ่งถือว่าเป็นน้ำมันที่มีประโยชน์ เพราะประกอบด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัว และสารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจเป็นอย่างยิ่ง และไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว จึงเหมาะกับการนำเอามาประกอบอาหารหลายชนิด