ในการท่องเที่ยวในฤดูหนาวของปีนี้ แม้ว่าหลาย ๆ ท่านอาจจะเสียดายที่ไม่ได้ไปเคาท์ดาวน์นับถอยหลังสู่วันปีใหม่ที่ต่างประเทศเหมือนเช่นทุก ๆ ปี การท่องเที่ยวก็ถูกจำกัดมากขึ้น จากการระบาดของสถานการณ์โควิดที่ยังไม่ท่าทีว่าจะดีขึ้น แต่หารู้ไม่ว่า ในประเทศไทยของเรานั้นก็มีที่เที่ยวสำหรับฤดูหนาวมากมาย ที่สวยงามมาก ๆ ไม่แพ้กับต่างประเทศเลย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีนี้ ที่เหมือนกับว่าสภาพอากาศเป็นใจ ที่มีอากาศเย็น ๆ ลงมาตั้งแต่ช่วงต้นเดือนธันวาคมมาแล้ว ดังนั้นไม่อยากจะคิดเลยว่า สถานที่ที่เราจะแนะนำพวกท่านนั้นจะสวยงามมากขนาดไหน
1. ดอยอินทนนท์ จ. เชียงใหม่
เป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมมาตั้งแต่ไหนแต่ไร สำหรับดอยอินทนนท์ ซึ่งดอยอินทนนท์แห่งนี้เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย จึงทำให้คุณจะได้สัมผัสกับอากาศหนาวเย็นอย่างจุใจ แล้วในบางวันที่อากาศหนาวจัด คุณก็ยังจะได้เห็นแม่คะนิ้ง หรือน้ำค้างบนยอดหญ้าที่กลายเป็นน้ำแข็ง และที่แห่งนี้ยังเป็นจุดที่ชมดวงอาทิตย์ขึ้นที่สวยมาก ๆ อีกด้วย
2. ดอยอ่างขาง จ. เชียงใหม่
อีกหนึ่งสถานที่ยอดนิยมรองจากดอยอินทนนท์ ดอยอ่างขางนี้ ตั้งอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ มีพืชพรรณไม้ดอก ผักผลไม้เมืองหนาวให้ท่านได้ชม และยังเป็นสถานที่ที่แฝงความโรแมนติกอีกด้วย และระหว่างทางขึ้นดอยอ่างขางก็จะมีกลุ่มของต้นซากุระเมืองไทยที่ออกดอกสีชมพูอ่อนสะพรั่ง และยังมีทะเลหมอกที่สวยงามอีกด้วย
3. ภูชี้ฟ้า จ. เชียงราย
สถานที่แห่งนี้มีอากาศหนาว และเย็นสบายตลอดทั้งปี และเป็นสถานที่ที่ชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่สวยงามมากที่สุดอีกด้วย แล้วยังมีทะเลหมอกให้ท่านได้ชมจนถึงช่วงสาย และนอกจากนั้น คุณยังสามารถเห็นวิวของสายน้ำแม่น้ำโขงที่คดเคี้ยวสวยงามอีกด้วย
4. ดอยม่อนเงาะ
สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ และที่น่าสนใจคือ สถานที่แห่งนี้มีความสวยงาม มีทะเลหมอกยามเช้า และยังให้คุณ ได้รู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติเป็นอย่างมาก เนื่องจากยังไม่เป็นที่รู้จักของคนมากมาย ทำให้คุณไม่ต้องไปเที่ยวแล้วต้องแย่ง กับใครเลย
5. ดอยหลวงเชียงดาว จ. เชียงใหม่
ดอยหลวงเชียงดาวมีความสูงเป็นอันดับ 3 ของเมืองไทย และก็กล่าวกันว่า เราควรจะได้ไปเยือนสักครั้งในชีวิต และควรที่จะค้างคืนเพื่อได้เพื่อจะได้ชมพระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตกที่มีวิวที่สวยงามพร้อมทะเลหมอกสุดแสนประทับใจ
6. ดอยผาฮี้ จ. เชียงราย
ดอยผาฮี้เป็นพรมแดนระหว่างประเทศไทย และพม่า ตั้งอยู่ในแถบอำเภอแม่สาย และเป็นชุมชนของชนเผ่าอาข่าดั้งเดิมที่เราสามารถไปดูวิถีชีวิตที่เรียบง่าย มีการปลูกชา และกาแฟ ลองจินตนาการดูสิว่าการได้นั่งห้อยขาแล้วจิบชาร้อน ๆ หรือกาแฟสดท่ามกลางธรรมชาติที่อากาศดี ๆ มันจะฟินขนาดไหน
7. ดอยสะโง้ จ. เชียงราย
อีกหนึ่งชุมชนอาข่าที่เราควรจะเยี่ยมชม เพราะที่แห่งนี้มีชิงช้า และวิถีชีวิตแบบชาวอาข่าให้เราได้ไปเยี่ยมชม นอกจากนี้ พระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตก ณ ที่แห่งนี้ก็สวยงามไม่แพ้ที่อื่นเลย
8. บ่อเกลือ จ. น่าน
ที่แห่งนี้เป็นบ่อเกลือบกแห่งเดียวที่มีในภาคเหนือ ที่คุณสามารถไปชมกรรมวิธีการผลิตเกลือสินเธาว์แบบโบราณดั้งเดิม ซึ่งเป็นที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก และคุณยังจะได้เห็นวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวบ้านอีกด้วย
9. ไร่กะหล่ำม้ง จ. เพชรบูรณ์
ฤดูหนาวที่จังหวัดเพชรบูรณ์ก็อากาศดีไม่แพ้กับภาคเหนือเลย หากท่านอยากเปลี่ยนบรรยากาศการสูดอากาศหนาว ที่เขาค้อ จ. เพชรบูรณ์ก็เป็นทางเลือกที่ดีมาก ๆ และยังมีไร่กะหล่ำของชาวม้งที่กว้างใหญ่ ที่ให้ท่านได้เก็บภาพสวย ๆ กลับบ้านอีกด้วย
10. ทุ่งกังหันลม จ. เพชรบูรณ์
หากท่านอยากได้ภาพที่เหมือนกับท่านไปเที่ยวต่างประเทศ เราขอแนะนำทุ่งกังหันลม เพราะให้อารมณ์เดียวกับประเทศฝั่งตะวันตก และบวกกับอากาศที่โปร่งสบาย น่าไปสูดอากาศเป็นที่สุด