หนึ่งในรังสีที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี ได้แกรังสีอัลตร้าไวโอเลต หรือรังสียูวี ที่เราเรียกกันอย่างติดปาก และที่คนไทยเรารู้จักกันเป็นอย่างดี ก็เพราะว่าบ้านเรานั้นมีแสงแดดที่จัดมากๆ ซึ่งเจ้ารังสีตัวนี้ ก็มากับแสงแดด เราทราบกันเป็นอย่างดีว่ารังสีตัวนี้ เป็นอันตรายกับร่างกายเราเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผิวหนัง และเนื้อเยื่อผิวหนัง แต่ในปัจจุบันก็มีการนำเอารังสียูวีมาใช้ในเครื่องมือต่างๆ ที่ไม่ได้จำเป็น ซึ่งเราอาจจะไม่รู้ตัวเลยว่า กำลังอยู่ในท่ามกลางความเสี่ยง ที่จะได้รับอันตรายจากรังสียูวีนี้
รังสียูวีคืออะไร
รังสียูวีเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า ที่มีความยาวคลื่นตั้งแต่ 10 จนถึง 400 นาโนเมตร ซึ่งเราสามารถพบรังสียูวีนี้ ปะปนมากับแสงแดด เราจึงต้องมีการทาครีมกันแดด เพื่อที่จะปกป้องผิวของเราจากรังสีที่มองไม่เห็นเหล่านี้
อันตรายจากรังสียูวี
จากงานวิจัยที่ได้รวบรวมผลการทดลองมาจากทั้งการสังเกตผลจากมนุษย์ และเซลล์ของหนู พบว่าหลังจาก 20 นาทีที่ร่างกายได้สัมผัสกับรังสียูวีโดยตรง ทำให้เซลล์ผิวหนัง และเซลล์ของหนู ตายไปกว่า 20-30 เปอร์เซ็นต์ และไม่เพียงแต่ที่เซลล์จะได้รับความเสียหายเพียงแค่นั้น แต่เซลล์ทั้งหลายจะมีการถูกทำลายต่อเนื่องไปเรื่อยๆ แม้ว่าจะไม่ได้รับแสงยูวีแล้วก็ตาม
เครื่องอบเล็บเจลด้วยรังสียูวี
อีกหนึ่งนวัตกรรมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน คือเครื่องอบเล็บเจล ที่ผู้คนนิยมใช้กันในร้านทำเล็บ เพื่อทำให้สีของเล็บแห้งเร็วขึ้น และเชื่อว่าทำให้สีเล็บติดทน และมีความเงางามมากยิ่งขึ้น ซึ่งจริงๆแล้วเครื่องเหล่านั้นอันตรายมากๆ เพราะทำให้ผิวได้รับการสัมผัสกับแสงยูวีโดยตรง และแม้ว่าผู้จัดจำหน่ายจะแจ้งว่า รังสีเหล่านี้ปลอดภัยต่อผู้บริโภค แต่นั่นก็ไม่ใช่ความจริงแต่อย่างใด
ทำผิวแทนด้วย UV Bed
อีกหนึ่งธุรกิจที่เป็นที่นิยมในสหรัฐอเมริกา คือธุรกิจความงามที่ทำให้ผิวแทนแบบทางลัด ด้วยการใช้เครื่องที่มีลักษณะเหมือนเตียงนอน และสาดรังสียูวี ที่มีความยาวคลื่นประมาณ 280-400 นาโนเมตรไปที่ผิวหนังโดยตรง โดยจะทำให้ผิวกลายเป็นสีแทนสวย แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดสารก่อมะเร็งโดยตรงกับร่างกาย
เครื่องฉายรังสียูวีเพื่อฆ่าเชื้อ
หลังจากสถานการณ์โควิด เราก็ได้เห็นเครื่องมือต่างๆ ที่ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อการฆ่าเชื้อ และอีกหนึ่งเครื่องที่เกิดขึ้นมาก็คือเครื่องฉายรังสียูวี เพื่อฆ่าเชื้อโรค ซึ่งนั่นเป็นการเข้าใจผิดเป็นอย่างมาก เพราะนั่นเป็นการเพิ่มโอกาสให้เราสัมผัสกับรังสีเจ้าปัญหานี้ มากกว่าที่จะฆ่าเชื้อโรค
อาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นกับการได้รับรังสียูวี
นอกจากที่จะทำให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนังแล้ว ยังมีผู้ป่วยบางคนที่ได้รับผลกระทบจากการสัมผัสรังสียูวีโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดตา ตาแดง และน้ำตาไหลตลอดเวลา ก็เพราะว่ารังสียูวีส่งผลกระทบโดยตรงกับเนื้อเยื่อผิวหนัง และเนื้อเยื่อตาก็เป็นเนื้อเยื่ออ่อน ที่ไวต่อการสัมผัสเป็นอย่างมาก