≡ 6 เรื่องจริงที่เกี่ยวกับ ออง ซาน ซูจี 》 Her Beauty

6 เรื่องจริงที่เกี่ยวกับ ออง ซาน ซูจี

Advertisements

นับว่าในปัจจุบันนี้ ผู้คนในโลกก็ล้วนแต่ให้ความสนใจกับการทำรัฐประหารของนายพลมิน อ่อง หล่าย หัวหน้าคณะรัฐประหารของประเทศพม่าเพื่อนบ้านของเรา และมีการจับกุมตัวออง ซาน ซู จี นักการเมืองหญิง หัวหน้าพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือที่เราเรียกสั้น ๆ ว่า พรรค NLD  ที่เพิ่งชนะการเลือกตั้งไปอย่างถล่มทลายก่อนที่จะถูกรัฐประหารขึ้น ซึ่งประชาชนในทุก ๆ สาขาอาชีพของพม่ารวมถึงต่างชาติ ก็เริ่มที่จะกดดันคณะรัฐประหารให้ยอมอ่อนข้อกับประชาธิปไตย และในวันนี้เรามี 6 เรื่องจริงเกี่ยวกับ ออง ซาน ซูจี มาให้ทุกท่านได้ทำความรู้จักกับเธอกันค่ะ

1. เธอเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นบิดาแห่งประเทศพม่า

พ่อของเธอคือ นายพลออง ซาน ผู้ที่ถือว่าเป็นวีรบุรุษแห่งเสรีภาพของประเทศพม่า เพราะเขาคือผู้นำคนที่ 5 ของพม่าในขณะที่พม่าอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ ซึ่งเขาได้รับการสนับสนุนจากญี่ปุ่นในการปลดปล่อยพม่าจากการปกครองของอังกฤษ และได้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศ แต่ในขณะที่้เขากำลังที่จะปลดปล่อยพม่าออกจากญี่ปุ่นนั้น เขาก็ถูกลอบสังหาร ในขณะที่เขามีอายุได้เพียง 32 ปีเท่านั้น และยังไม่ทันได้เห็นประเทศพม่าได้เป็นเอกราชอย่างแท้จริง

2. กำเนิดอองซานซูจี

เธอได้ถือกำเนิดขึ้นที่เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า แต่ในภายหลังที่บิดาของเธอถูกลอบสังหาร ในขณะที่เธอมีอายุได้เพียง 2 ปีเท่านั้น มารดาของเธอก็ได้พาเธอลี้ภัยไปยังประเทศอินเดีย และเธอได้รับการศึกษาและเติบโตที่นั้่น และได้สำเร็จการศึกษา   ในระดับปริญญาตรีจากสาขาการเมือง และเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยอันดับต้น ๆ   ของโลก จึงไม่แปลกใจเลยที่เธอมีสำเนียงการพูดภาษาอังกฤษที่ไพเราะ และเฉียบคมทุกครั้งเมื่อเธอให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนนานาชาติ

3. ชีวิตครอบครัวของอองซานซูจี

เธอได้พบกับสามีของเธอ ไมเคิล อริสในขณะที่ทั้งคู่เข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด และได้มีบุตรด้วยกัน 2 คน คือ อเล็กซานเดอร์ และคิม ด้วยการที่เธอเป็นคนที่มุ่งมั่นที่จะเรียกร้องประชาธิปไตยให้กับประเทศของเธอ และต้องถูกจำกัดพื้นที่ และห้ามออกนอกประเทศอย่างเด็ดขาด หลายต่อหลายครั้งทำให้เธอต้องแยกกับสามี แม้ขณะที่เขากำลังจะเสียชีวิต เธอก็ไม่มีโอกาสแม้จะดูใจในวาระสุดท้าย

4. เส้นทางการเมืองของอองซานซูจี

Loading...

ออง ซาน ซูจี ได้เดินทางกลับประเทศพม่าในวัย 43 ปี โดยในความตั้งใจแรกของเธอ เธอไม่ได้ต้องการที่จะยุ่งเกี่ยวกับการเมืองเสียด้วยซ้ำ แต่ด้วย ณ ขณะนั้น พม่าถูกปกครองด้วยระบอบทหารที่นำโดยนายพล เน วิน ที่ขึ้นสู่อำนาจกว่า 26 ปี  ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่คิดต่าง และอยากเรียกร้องประชาธิปไตย และด้วยการที่เธอเป็นลูกของพ่อ นายพล ออง ซาน เธอก็ไม่ได้นิ่งเฉย เธอได้ก่อตั้งพรรคการเมืองสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยขี้น

5. อองซานซูจีกับรางวัลโนเบล

ในขณะที่เธอถูกกักบริเวณเมื่อปี พ.ศ. 2534 คณะกรรมการประกาศรางวัลโนเบล ประเทศนอร์เวย์ ได้ประกาศให้เธอเป็นผู้ที่รับรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ เพราะตลอดเวลาเธอเลือกที่จะต่อสู้เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยให้กับประเทศพม่า โดยที่      ไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรง แม้ว่าเงื่อนไขคือเธอจะต้องถูกกักบริเวณหลายต่อหลายครั้ง แม้ว่าเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาจะมีเสียงต่อต้านเธอจากนานาประเทศมากมาย จากการที่เธอร้องต่อศาลโลกเพื่อขอให้ยกฟ้องคดีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของชาวโรฮิงญาในประเทศพม่า ทำให้ชื่อเสียงของเธอในสายตาของโลกนั้นเปลี่ยนแปลงไป

6. อองซานซูจีกับบทบาทแม่ของประเทศพม่า

แม้ว่าชาวโลกจะมองออง ซาน ซูจีในมุมที่แตกต่างออกไป แต่ถือได้ว่าออง ซาน ซูจี เป็นความหวังของชาวพม่า ที่จะได้รับประชาธิปไตยอย่างแท้จริงในอนาคต เพราะจากสิ่งที่เธอทำมา ทำให้ประชาชนชาวพม่าได้เห็นว่าเธอได้ทำเพื่อชาวพม่า    อย่างแท้จริง ซึ่งพวกเขาเรียกเธอว่าด่อซุ้ หรืออะเหม่ที่แปลว่าแม่

Advertisements