สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน อินฟลูเอนเซอร์สายมังสวิรัติหรือวีแกนอย่าง ชันนา ซัมโซโนวา ชาวรัสเซียวัย 39 ปี เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมาด้วยภาวะขาดสารอาหารขั้นรุนแรง
ชันนา เป็นที่รู้จักในหมู่ผู้ชมหลายล้านคน ในชื่อชันนา ดีอาร์ต (Zhanna D’Art) เธอชอบทานอาหารมังสวิรัติแบบ Raw food เรียกว่า อาหารดิบหรือโภชนาการอาหารสด ๆ จากธรรมชาติที่ยังไม่ได้ปรุงสุก และยังไม่ได้แปรรูป ในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา โดยกินแค่ผลไม้ ต้นอ่อนเมล็ดทานตะวัน สมูทตี้ผลไม้ และน้ำผลไม้แทนน้ำมากว่าหกปี
ในโพสต์เมื่อวันที่ 14 มกราคม เธอเรียกทุเรียนว่า “อาหารที่อร่อยที่สุดในโลก” เธอยังระบุด้วยว่า “หากเรื่องโภชนาการ และเงินไม่ใช่ปัญหา ฉันอยากจะกินทุเรียนไปตลอดชีวิต” ในขณะเดียวกันเพื่อนคนหนึ่งของเธออ้างว่า ชันนาไม่กินอะไรเลยนอกจากทุเรียนและขนุน แม้ว่าคำกล่าวอ้างนี้จะยังไม่ได้รับการพิสูจน์ก็ตาม
“เมื่อ 2-3 เดือนก่อน ในศรีลังกา เธอดูอ่อนล้า ขาบวม มีน้ำเหลืองไหลออกมา” เพื่อนที่ไม่ปรากฏชื่อคนหนึ่งบอกกับสื่อ “พวกเขาส่งเธอกลับบ้านเพื่อรับการรักษา อย่างไรก็ตาม เธอหลบหนีอีกครั้ง ตอนที่ฉันเห็นเธอที่ภูเก็ต ฉันตกใจมาก”เพื่อนของเธอกล่าวเสริมว่า “ฉันอาศัยอยู่เหนือเธอ 1 ชั้น และทุก ๆ วัน ฉันกลัวว่าจะพบร่างไร้ชีวิตของเธอในตอนเช้า ฉันโน้มน้าวให้เธอเข้ารับการรักษา แต่เธอไม่รักษา”
โดยก่อนที่จะเสียชีวิต เธออยู่ในมาเลเซีย แม่ของชันนากล่าวถึงการจากไปของลูกสาวของเธอด้วย “การติดเชื้อคล้ายอหิวาตกโรค” ซึ่งอาการแย่ลงจากการรับประทานอาหารที่ผิดปกติของเธอ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการประกาศสาเหตุการเสียชีวิตของเธออย่างเป็นทางการ เพื่อน ๆ ของเธอเชื่อว่าการเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพของเธอเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของชันนา
Raw Food คืออะไร ?? คำว่า Raw ตามความหมาย แปลว่า ดิบ “Raw Food” (รอว์ฟู้ด) คือ โภชนาการอาหารสด ๆ จากธรรมชาติ พวกพืช ผัก ผลไม้ ธัญพืชที่ปราศจากสารสังเคราะห์ เช่น ปุ๋ยเคมี ฮอร์โมน ยาฆ่าแมลง ยาปราบศัตรูพืช รวมทั้งต้องไม่มีการดัดแปลงตัดต่อพันธุกรรม หรือที่เรียกว่า จีเอ็มโอ (GMO : Genetically Modified Organisms) ไม่มีการใช้แป้ง เนื้อสัตว์ หรือผลิตภัณฑ์ที่ได้จากสัตว์ เช่น นม เนย อีกทั้งต้องไม่มีการปรุงรสด้วยสารสังเคราะห์จำพวก ผงชูรส น้ำปลา และน้ำตาล อาจใช้เกลือทะเล ผลไม้ มาแต่งกลิ่น และรสชาติได้ตามสมควร นำมากินแบบสด ๆ โดยไม่ผ่านความร้อนหรือถ้าใช้ความร้อน ต้องไม่เกิน 42 องศาเซลเซียส (C) หรือเท่ากับ 118 องศาฟาเรนไฮน์ (F) เพื่อคงคุณค่าอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ และเอนไซม์ เนื่องจากเอนไซม์จะสลายตัวเมื่อโดนความร้อนเกินกว่า 42 องศาเซลเซียส (C)
